โรคปวดข้อ ปวดเข่า เสื่อม หรือ Knee Ostoearthritis

 ✔  รอบรู้ทันโรค บำบัดตัวเอง ฟรี !!!

   ✪ แชร์แบ่งปันเป็นวิทยาทาน #

“ โรคปวดข้อ ปวดเข่า หรือ Knee Ostoearthritis"

 ➤ อาการบอกเหตุ :

- เมื่อต้องเคลื่อนไหวจะมีเสียงลั่นในข้อ

- มีอาการกดเจ็บบริเวณที่มีปัญหา

- เข่าอ่อนแรงและมวลกล้ามเนื้อเสื่อมลง

- ข้อเข่าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มที่ 

   เสียความยืดหยุ่น ข้อติดขัดหรือขยับยาก 
มักจะเกิดขึ้นเวลาเช้าหรือต้องนั่งท่าเดิมเป็น
เวลานาน ทำให้เกิดความยากลำบากเวลาเดิน 
ขึ้นบันได หรือลุกจากเก้าอี้

ภาวะแทรกซ้อนของเข่าเสื่อมที่อาจเกิดขึ้นได้ มีดังนี้

- เกิดการตายของกระดูก (Osteonecrosis)

- เส้นเอ็นรอบ ๆ ข้อต่อสึกแตกหรือเสื่อมสภาพ

- เลือดออกในข้อต่อ

- ติดเชื้อในข้อต่อ บวม 

➤ สาเหตุที่เกิด :

   เกิดจากกระดูกอ่อนที่ทำหน้าที่ปกป้องส่วนปลาย
กระดูกข้อต่อเสื่อมลง ซึ่งทำให้เกิดอาการที่ได้กล่าว
ในข้างต้นตามมา เข่าเสื่อมที่มาจากสาเหตุอื่น เช่น
อายุมากขึ้นก็จะเกิดเข่าเสื่อมจะมีมากขึ้นเนื่องจาก
การซ่อมแซมของร่างกายน้อยลงนั่นเอง ไม่มีน้ำไขข้อ
กระดูก ทำให้ข้อต่อที่มีการเคลื่อนไหวเสียดสีกันและ
สึกหรอเร็ว, การได้รับบาดเจ็บที่ข้อ , โรคอ้วน,
กรรมพันธุ์ และโรคข้ออักเสบชนิดอื่น ๆ 
ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดการทำลายของข้อต่อ เช่น
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เก๊าท์ เป็นต้น 

➤ วิธีบำบัดและรักษา

- ใช้ยาแก้ปวดหรือยาแก้อักเสบ ผู้ป่วยสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อ

ใช้ยาบรรเทาอาการเจ็บปวด เช่น ยาอะเซตามิโนเฟน (Acetaminophen) 

หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) แต่ไม่ควรใช้ยานานเพราะอาจทำให้เกิด

ผลข้างเคียง นอกจากนั้น หากใช้ยาดังกล่าวแล้วอาการไม่ดีขึ้น 

ควรปรึกษาขอใช้ยาตามแพทย์สั่ง

- ฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Cortisone Injections) สามารถช่วยลด

การอักเสบและความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แพทย์จะฉีดยาชา

บริเวณข้อและฉีดยาเข้าไปที่ข้อของผู้ป่วย ซึ่งผู้ป่วยสามารถรับการฉีดได้

3-4 ครั้งต่อปีเท่านั้น เพราะหากฉีดมากเกินไปอาจสร้างความเสียหายกับ

ข้อได้อย่างถาวร

- การกายภาพบำบัด เป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีทำให้กล้ามเนื้อรอบข้อ

เข่ามีความแข็งแรงและเรียนรู้วิธีเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อต่อจากนัก

กายภาพบำบัด ซึ่งวิธีเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้น ปวดน้อยลง

และขยับเคลื่อนไหวได้มากขึ้น

- การผ่าตัด
   สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและการรักษาอื่น ๆ ไม่เป็นผล การผ่าตัดก็

จะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่แพทย์จะใช้ในการรักษา โดยจะมี 3 รูปแบบ ได้แก่

- การผ่าตัดเพื่อให้ผิวข้อเข้ามาชิดกัน (Arthrodesis) 

- ศัลยกรรมเปลี่ยนข้อเข่า (Arthroplasty) 

- การตัดเปลี่ยนแนวกระดูก (Osteotomy) 

- ประคบร้อน ประคบเย็น เพราะความร้อนและความเย็นจะช่วยบรรเทา

  ความเจ็บปวดได้โดยความร้อนจะช่วยบรรเทาข้อฝืด ส่วนความเย็นจะ

  ช่วยลดการหดเกร็งและความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ

- ใช้ที่รัดเข่า ผู้ป่วยสามารถสอบถามวิธีที่ถูกต้องในการใช้เทปรัดเข่าจาก

   แพทย์หรือนักกายภาพบำบัด จะทำให้ได้รู้ว่าควรพันที่ตำแหน่งใดจึงจะ

   เหมาะกับอาการของตนที่สุด

- ใช้ครีมหรือเจลบรรเทาปวด ครีมหรือเจลบรรเทาปวดที่หาซื้อได้ตามร้าน

   ขายยาทั่วไป สามารถช่วยบรรเทาปวดจากเข่าเสื่อมได้ชั่วคราว

- อุปกรณ์ช่วยพยุงเดินหรืออุปกรณ์เสริมรองเท้า อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยลด

  แรงกดและรองรับน้ำหนักที่ข้อเข่า ซึ่งแพทย์อาจแนะนำอุปกรณ์เหล่านี้เพื่อ

  ให้ผู้ป่วยสามารถยืนหรือเดินได้สะดวกยิ่งขึ้น

        ➤ การทำกายภาพบำบัดหรือทานสมุนไพรก็เป็น

     อีกทางเลือกที่คุ้มค่าและปลอดภัยที่สุด

------------------------------------------------------------
  ✚ ศูนย์สมุนไพรสเต็มเซลล์ บำบัดโรคเสื่อม

“ชามือ กระดูกทับเส้น ปวดข้อเข่า ตับ ไต
ไขมัน เบาหวาน ล้างสารพิษ”
ปรึกษา ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย : 
☎ 0926134008 (น้องมะลิ)
Line ID: @herbbest

คลิ๊กเพิ่มเพื่อนรับคำปรึกาาที่ลิ้งนี้ฟรี 
☛  http://line.me/ti/p/%40fag4611i

"ปวดข้อเข่า กระดูกทับเส้น ไหล่ติดชามือ 
ทางออกที่ไม่ต้องผ่าตัด "
 ✚  สมุนไพร-สเต็มเซลล์โบนิโก้(Boniko) 
เป็นสเต็มเซลล์จากพืชกว่า 12 ชนิด ลิขสิทธ์
เดียวจากเยอรมัน พร้อมด้วยคอลลาเจนไทพ์ทู
แบบสมบูรณ์เหมือนที่อยู่ในข้อต่อของกระดูก
ผสมสารสกัดสมุนไพรอันทรงคุณค่า
กว่า 40 ชนิด เช่น โสมเกาหลี หอยแมลงภู่
จากนิวซีแลนด์ ตังถั่งเฉ้า เห็ดหลินจื่อ
จึงมากด้วยประสิทธิภาพ ช่วยฟื้นฟูร่างกาย 
ระบบกระดูก ไขข้อ เส้นเอ็น เส้นเลือดต่างๆ
ให้กลับมาแข็งแรง 

" เบื่อต้องทนเป็นหนูลองยา อย่าหมดศัทธา
ถ้ายังไม่ลองทานสมุนไพรโบนิโก้"

☪  ดูรีวิวจากลูกค้าจริง :☪https://youtu.be/AexAMZf7JrU