กระดูกทับเส้น, ปวดสะโพก ชาร้าวลงขา ปวดกลางหลัง หมอนรองกระดูกเสื่อม ปวดเข่า เดินมีเสียงดัง: โรคไต ฟอกไตด้วยอาหาร ทำอย่างไร?

โรคไต ฟอกไตด้วยอาหาร ทำอย่างไร?

คนที่เป็นโรคไต นี้ ทานผักก็มีปัญหา เนื้อสัตว์ก็มีปัญหา ทานน้ำก็ยังมีปัญหา ทานน้ำแข็งยังต้องอมไว้ก่อนเลย

ปัสสวะไม่ออก ทรมารมาก

ปัญหาไต ทุกวันนี้เป็นปัญหาระดับชาติ เพราะอาหารที่เราทานทุกวันนี้มีส่วนประกอบของเกลือเป็นหลัก คนไทย

ชอบทานอาหารที่มีรสเค็ม รสจัด

เกลือมีอยู่ 3 รูปแบบด้วยกัน

1.โซเดียมคลอไรค์( Sodium Chloride)คือเกลือเค็มๆที่เราทานกันอยู่ เกลือแกง ที่บ้านเรานี่เอง ใช้กันเยอะมากใน

อุตสาหกรรมพวก ไส้กรอก ที่ต้องเก็บของไว้นานๆ อาหารตากแห้ง อาหารกระป๋องใช้เกลือเยอะมาก

2. ผงชูรส คือ โมโนโซเดียมกลูตาเมต (monosodium glutamate) ใช้กันเยอะมากในการปรุงรสของอาหารต่างๆ

ที่เราทาน เพื่อเพิ่มความอร่อยในรสชาติของเมนูอาหารนั้นๆ

3.เกลือโซเดียมไบคาร์บอเนต (sodium bicarbonate) ผงฟูที่เราใช้ในอุตสาหกรรมขนมปังนั่นเอง หรือเราจะเรียกว่า เบกกี้งโซดา (baking soda)

ทั้งหมดนี้คือเกลือชนิดต่างๆที่เราทานเข้าไปในแต่ละวัน ซึ่งเมื่อเราทานเข้าไปแล้วมันเป็นปัญหาที่

ร่างกายเราต้องคอยกำจัดมันออกไป

ตัวที่กำจัดเกลือที่เข้าไปในร่างกายเราได้ดีที่สุดคือน้ำเปล่า แต่ว่าทุกวันนี้เราทานน้ำกันผิดวิธี

และก็ทานน้ำกันน้อย อาหารที่เราทานเข้าไปเหล่านี้เต็มไปด้วยเกลือ มันก้เลยกลายเป็นภาระ

ซึ่งไตต้องทำงานหนัก เราไม่ค่อยได้ดูแลไตกัน ไตก็เลยมีปัญหา

จริงๆแล้วไต มันจะค่อยๆแสดงค่า ในตัวของมันออกมาให้เราได้เห็น (ค่าของเสียในไตต้องไม่เกิน1.7 )

อาการที่ไตแสดงผลออกมามีดังนี้

1..ปัสสาวะขุ่น (ปัสสาวะไม่ออกหรือ ลำบากมาก)

2. .มีโปรตีนสีขาวหลุดออกมาปนกับน้ำปัสสาวะ เขาเลือกโปรตีนไข่ขาว

3.ปัสสาวะ มีลักษณะเป็นฟอง ที่คล้ายฟองเบียร์ในโถปัสสาวะ และฉี่ที่ออกมามันจะเข้มมาก

วิธีสังเกตุปัสสาวะ มีอยู่ 2 แบบ นะคะ

1.ถ้าปัสสาวะออกมาขาวๆ ใสๆ ไม่มีกลิ่น แสดงว่ามันไม่ผ่านไต คือไตไม่ได้กำจัดของเสีย

แปลว่าน้ำนั้นออกมาจากปอดโดยตรง

2.ถ้าปัสสาวะที่ดี จะต้องมีสีเหมือนสีน้ำชา และก็มีกลิ่นอ่อนๆ

เราจะคุยเรื่องโรคไต ในมุมมองหรือทัศนะคติของเวชศาสตรืแพทย์แผนจีนนะคะ ถ้าเราเป็นโรคไต สำหรับหมอ
แผนปัจจุบันในทุกวันนี้เขาก้จะไปรักษาที่ไตโดยตรงเลย แล้วก็ไปจัดการของเสีย โดยการไปฟอกไต โดยต่อท่อออก
มา อาทิตรหนึ่ง ต้องไปล้าง 3 ครั้ง (เวลาฟอกไต แล้วจะอ่อนเพียมาก ไม่มีแรง และผิวนี้จะแห้ง ดำ คัน )

ซึ่งหมอทำตรงนั้นไม่ผิดนะคะ

แต่ในทัศนคติของแพทย์แผนจีนเขาบอกว่า มองที่ไตอย่างเดียวไม่ได้ เวลาจะรักษาโรคไตมันต้องมองไปที่ปอดด้วย ซึ่งหลักๆต้องมองทั้งองค์รวม คือระบบสมดุลย์ของร่างกายเรา ทำไมต้องมองที่ปอด เพราะปอดเป็นตัวกำเนิดน้ำ เป็นตัวกระจายน้ำ แล้วมีม้ามเป็นตัวลำเรียงน้ำ ไปยังไต โดยทั้ง 3 อวัยวะนี้คือ ปอด ม้าม ไต มันจะต้องมีตัวพาหะนำน้ำมาก็คือเลือดของเรานั่นเอง
เพราะฉะนั้นในการดูแลรักษาโรคไตจึงต้องบำรุงดูแลรักษาองค์รวมทั้ง 3 อวัยวะนี้ คือ ม้าม ปอด ไต และ บำรุงเลือด จึงเป้นองคืประกอบที่สำคัญต้องดูแลรักษาไปด้วยกัน จึงจะได้ผลระยะยาว

ปอดไม่ดีจะส่งผลไปยังผิวพรรณดี มีน้ำมีนวล หน้าใส ดูสดชื่น

ไตไม่ดีจะส่งผลไปยัง กระดูก ปวดโน่น ปวดนี่ มือชา เท้าบวม เป็นต้น

วันนี้เรามาดู วิธีการดูแล บำรุงไตกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ไตเสื่อมได้ง่ายๆ

1.เลี่ยงทานอาหารที่มีรสเค็ม

2.ไม่ทานเนื้อสัตว์เยอะเกินไป เพราะเนื้อสัตว์จะมีโปรตีนเยอะ และโปรตีนก็จะถูกเปลี่ยนเป็นพวก

ยูเรีย ก็เป็นของเสียที่ไตต้องกำจัดออกจากร่างกาย เป็นจำนวนมาก และไขมันตัวไม่ดี (LDL)

ไขมันตัวนี้ก็จะไปทำให้ไตอุดตันได้ง่าย

แพทย์แผนปัจจุบัน บอกว่าไตจะเป็นตัวกำเนิดกรด อะมีโน เขาเรียก กรดอะมีโน แอลคานีทีน

กรดอะมีโน แอลคานีทีนตัวนี้มันมีหน้าที่ เปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน คนที่ถูกฟอกไตไป

กรดอะมีโน แอลคานีทีน ตัวนี้จะถูกฟอกไปด้วย และมีการสูญเสีย ทำงานไม่ได้เต็มที่ซึ่งร่างกายก็

จะขาดพลังงานทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง

อาหารบำรุงไต (จัดเป็นธาตุที่มีสีดำ จะต้องทานอาหารที่มีสีดำเพื่อบำรุง)

1.เห็ดหูหนูดำ